จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิค-19 ที่ผ่านมา ทำให้หลายบริษัทเริ่มการ work from home มากขึ้น และนั่นทำให้ใครหลายคนเริ่มเลือกที่จะซื้อคอมพิวเตอร์เพื่อมาใช้งาน ทั้งทำงานและเพื่อผ่อนคลาย
โน๊ตบุ๊คก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่สะดวก ง่าย และเป็นที่นิยมในชีวิตปัจจุบัน เพราะนอกจากจะใช้งานที่บ้านได้แล้ว ยังสามารถพกพาไปทำงานได้ด้วย เรียกได้ว่าสามารถทำงานได้ต่อเนื่องทั้งที่บ้านและนอกบ้านได้อย่างไม่สะดุดเลยทีเดียว
แต่ก็คงมีใครหลายคนที่กำลังคิดว่า เอ๊ะ ? แล้วจะเลือกโน๊ตบุ๊คยังไงดี มีทั้งหลายรุ่นหลายราคา ต้องดูอะไรบ้าง แบบไหนถึงจะเหมาะกับเรา วันนี้ผมมีคำตอบมาให้ครับ
CPU
เป็นหัวใจของคอมพิวเตอร์ที่สำคัญ การเลือก CPU ให้ตรงกับความต้องการ จะช่วยให้เราสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดงบประมาณด้วย
CPU หลัก ๆ จะมีสองค่ายที่เราพบเจอ นั่นคือ Intel และ AMD โดยทั้งสองค่ายจะใช้ชื่อรหัส CPU เป็น Core I และ ryzen แต่ที่เราจะดูกันคือตัวเลขด้านหลัง ซึ่งถ้าให้ทำความเข้าใจง่าย ๆ ทั้งสองค่ายจะเป็นเลขเดียวกันคือ 3 5 และ 7 ครับ โดยจะมี CPU รหัสอื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพด้วยหรือสูงกว่านี้ แต่โน๊ตบุ๊คสมัยนี้มักจะใช้ CPU รุ่นนี้กัน เพราะฉะนั้นขอยกตัวอย่างเป็น CPU รุ่นนี้นะครับ
Intel core i3 และ AMD ryzen 3 เป็นซีพี่ยูรุ่นเริ่มต้นในซีรี่ย์นี้ มีประสิทธิภาพปานกลาง แต่ก็มากพอที่จะทำงานทั่วไป ดูหนัง ทำงานเอกสารได้แบบไม่มีสะดุด เล่นเกมออนไลน์ทั่ว ๆ ไปได้ แต่อาจจะเล่นเกมหนัก ๆ ไม่ค่อยไหว ไม่แนะนำสำหรับคนเล่นเกมนะครับ
Intel core i5 และ AMD ryzen5 เป็นตัวแรงยอดฮิต ที่ครอบคลุมได้ทั้งทำงานและเล่นเกม รวมถึงราคาไม่สูงมาก เป็นรุ่นที่แนะนำมากที่สุด ทั้งความแรงและราคาที่จับต้องได้ เรียกได้ว่าเป็นรุ่นยอดฮิตของทั้งคนทำงานและคนเล่นเกมเลยทีเดียว ใครที่ต้องการคอมทำงาน ตัดต่อ และเล่นเกมในตัวเดียว แนะนำเป็นรุ่นนี้เลยครับ
Intel core i7 และ amd ryzen 7 เป็น CPU ตัวแรง ที่ทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานกราฟิค ตัดต่อ เล่นเกม รวมถึงทำโปรแกรมเอฟเฟค 3D ต่าง ๆ สำหรับคนที่ใช้โปรแกรมออกแบบที่ต้องการความแรงของ CPU ในการประมวลผล และยังรวมไปถึงอาชีพยุคใหม่อย่าง Streamer ที่ CPU ตัวนี้ก็สามารถใช้งานหนัก ๆ อย่างเล่นเกมไป ถ่ายทอดสดไปพร้อมกันได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็น CPU ตัวแรงสำหรับคนที่ต้องการใช้งานหนัก ๆ เลยล่ะครับ
GPU
GPU หรือการ์ดจอ เป็นหน่วยประมวลผลภาพ ที่มีอยู่บน CPU อยู่แล้ว แต่สำหรับโน๊ตบุ๊คบางเครื่องก็จะมีการ์ดจอแยกต่างหาก เพื่อการทำงานเกี่ยวกับกราฟิคที่ลื่นไหลมากขึ้น ซึ่งสำหรับคนเล่นเกมก็ต้องดูการ์ดจอสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ แต่ก็แอบกระซิบนิดนึงว่าสำหรับสายทำวีดีโอแล้ว การใช้โน๊ตบุ๊คที่มีการ์ดจอแยกสำหรับเล่นเกม ก็ช่วยในการตัดต่อวีดีโอได้ดีมาก ๆ เลยล่ะครับ
Ram
แรมจะมีตั้งแต่ต่ำที่สุด 4gb ไปจนถึง 32gb แต่ปัจจุบันก็มักจะเริ่มต้นที่ 8gb ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ทำงานเอกสาร กราฟิค แต่ใครที่ต้องการเล่นเกม หรือทำงานกราฟิคหนัก ๆ ตัดต่อวีดีโอ แนะนำให้ใช้แรม 18gb
อีกเรื่องนึงที่คนมักจะเข้าใจผิดว่า แรมยิ่งเยอะ เครื่องยิ่งเร็ว ไม่จริงนะครับ เพราะแรมไม่ใช่หน่วยประมวลผลแต่อย่างใด แรมเป็นเสมือนพื้นที่ให้โปรแกรมขึ้นมาทำงานเท่านั้น ให้นึกภาพง่าย ๆ ว่ามีห้องอยู่ห้องหนึ่ง แล้วเอาของมาวาง ๆ เรียงไว้จนเต็มห้อง แรมก็เปรียบเสมือนห้อง ส่วนโปรแกรมที่กำลังใช้ก็เปรียบเสมือนสิ่งของ พูดง่าย ๆ ก็คือ ยิ่งแรมเยอะ ก็ยิ่งเปิดใช้โปรแกรมได้เยอะนั่นเอง
Storage
พื้นที่จัดเก็บข้อมูล หรือเรียกอีกอย่างว่า Rom นั่นเอง ซึ่งค่อนข้างจะถูกสับสนกับ ram แต่ส่วนที่เราใช้เก็บข้อมูลต่าง ๆ นั้น เราจะเรียกว่า พื้นที่จัดเก็บข้อมูล หรือ storage ต่างหาก
ซึ่งพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ HDD (Hard disk drive) ที่เรารู้จักกันดี และ SSD (solid stage drive) เทคโนโลยีใหม่ ซึ่งมีความเร็วสูงกว่า HDD ทำให้อ่านข้อมูล เปิดโปรแกรมได้รวดเร็วกว่า ซึ่งโน๊ตบุ๊คสมัยนี้ก็มักจะเป็น SSD กันหมดแล้ว
SSD ที่มักติดมากับเครื่องนั้น มักจะมีความจุอยู่ที่ 512 GB ซึ่งโดยทั่วไปก็เพียงพอต่อการใช้งาน เพราะเมื่อลงวินโดว์ โปรแกรมเอกสาร โปรแกรมกราฟิคอื่น ๆ แล้ว ก็จะใช้พื้นที่อยู่ที่ประมาณ 150-200 GB เท่านั้น ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งาน หรือใครต้องการที่จัดเก็บเพิ่ม ก็อาจจะต้องศึกษา หรือสอบถามพนักงานว่ารุ่นที่เราต้องการจะซื้อ สามารถอัพเกรดเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้หรือไม่
จอภาพ
เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะกับคนที่เป็นสายทำงานกราฟิค เพราะหน้าจอแต่ละจอสามารถแสดงค่าสีได้ต่างกัน หากค่าสีต่ำ หน้าจออาจจะแสดงผลสีแดงที่ต่างกันสามสี กลายเป็นสีเดียวกัน หรือเพี้ยนหนัก ๆ อาจจะกลายเป็นสีส้มไปเลยก็ได้
ค่าสีที่ต้องดูตรงนี้เลยคือค่าสีที่เรียกว่า sRGB ซึ่งเป็นค่าสีมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไป ซึ่งเราควรดูค่าสีจอที่มี sRGB ตั้งแต่ 90% ขึ้นไป เพื่อความเที่ยงตรงของสีนะครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ไม่ยากเลยใช่มั้ยครับ? จริง ๆ แล้วการซื้อโน๊ตบุ๊คแต่ละครั้ง เราควรถามตัวเองก่อนว่าต้องการที่จะใช้งานแนวไหน หากเป็นคนทำงานเอกสาร ก็อาจจะเลือกโน๊ตบุ๊คที่บางและเบา สเปคไม่สูงมาก หรือสายเล่นเกมก็ต้องดูที่ CPU และ GPU เป็นหลัก สายทำกราฟฟิคก็อาจจะต้องดูปริมาณ RAM ROM และค่าสีหน้าจอเป็นหลัก แตกต่างกันไปตามการใช้งานครับ
สุดท้ายนี้ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านที่กำลังเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คดี ๆ สักตัวนะครับ ศึกษาดี ๆ ดูงบประมาณ อย่ารีบตัดสินใจ เพราะโน๊ตบุ๊คก็เหมือนคู่หูที่ต้องติดตัวอยู่กับเราไปอีกนานเลยล่ะครับ